โค้งสุดท้าย LTF & RMF เปลี่ยนภาษีปีไก่เป็นเงินออมปีจอ

โค้งสุดท้าย LTF & RMF เปลี่ยนภาษีปีไก่เป็นเงินออมปีจอ

โค้งสุดท้าย LTF & RMF เปลี่ยนภาษีปีไก่เป็นเงินออมปีจอ


    สวัสดีทุกท่านค่ะ^^ อย่ามัวรอช้าอย่าทำงานจนเพลินนะคะ โค้งสุดท้ายแล้วกับการเปลี่ยนภาษีปีไก่เป็นเงินออมปีจอ เหลืออีกประมาณสองสัปดาห์เท่านั้น!!! DD-Wealth อยากให้ทุกท่านได้สำรวจว่าท่านได้ซื้อเต็มสิทธิกันแล้วหรือยัง? เอ๊ะ! เดี๋ยวจะงงกันว่า 'สิทธิ' อะไรหรือ?

        ผลิตภัณฑ์ลดหย่อนภาษี ซึ่งถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ก็จะมี LTF & RMF บางท่านอาจรู้จักบ้างแล้ว และได้ใช้สิทธิอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่สำหรับในบางท่านอาจยังไม่เคยได้ใช้สิทธิ และอยากทำความรู้จักแบบใกล้ชิดได้ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พี่ Tidawan เลยอยากพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ LTF & RMF กันค่ะ

 

LTF ย่อมาจากคำว่า 'Long Term Equity Fund' หรือ 'กองทุนรวมหุ้นระยะยาว' ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเป็นหลัก และเหมาะสำหรับคนทุกกลุ่มที่ต้องการลงทุนในหุ้นระยะยาว แต่อาจไม่มีความชำนาญเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น หรือไม่มีเวลาติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิด

       เกณฑ์ในการลงทุน LTF 'ผู้มีเงินได้สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี เป็นจำนวนเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท' โดยต้องถือครอง 7 ปีปฏิทิน ถึงจะสามารถขายได้

 

RMF ย่อมาจากคำว่า 'Retirement Mutual Fund' หรือ 'กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ' ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภทส่งเสริมให้เกิดการออมเงินระยะยาวไว้สำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุ และมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อรองรับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ตามช่วงอายุของผู้ลงทุนตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำถึงความเสี่ยงสูง

       เกณฑ์ในการลงทุน RMF 'ผู้มีเงินได้สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี เป็นจำนวนเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท' (รวมเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.), ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน) โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องซื้อติดต่อกันทุกปีเว้นได้ไม่เกิน1 ปี นอกจากนั้นยังต้องถือไว้เกินกว่า 5 ปี และมีอายุเกิน 55 ปี ถึงจะสามารถขายได้

 

       สำหรับรายได้ที่ต้องเสียภาษี เช่น เงินเดือน ค่าล่วงเวลา โบนัส รวมทั้ง รายได้จากวิชาชีพอิสระ เช่น หมอ นักบัญชี นักกฏหมาย สถาปนิก วิศวกร เป็นต้น

       ส่วนรายได้ที่ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งตามเกณฑ์ใหม่ไม่สามารถนำมารวมเป็นฐานในการคำนวณซื้อ LTF/RMF ได้ เช่น เงินรางวัลจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล กำไรจากการขาย LTF ที่ขายคืนแบบถูกเงื่อนไข เงินที่ได้รับจากกองทุนฯมาแล้วอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่องกัน เป็นต้น

          

คุณซื้อเต็มสิทธิแล้วหรือยัง?

ตัวอย่าง

ตารางเปรียบเทียบการประหยัดภาษีกรณีลงทุนและไม่ลงทุนใน LTF & RMF


       เห็นไหมคะ...เราสามารถประหยัดภาษีได้ง่ายๆ รู้อย่างนี้แล้วอย่ามัวรอช้านะคะ ใช้สิทธิให้เต็มที่เลยค่ะเหตุผลที่แท้จริงอีกอย่างของกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีเท่านั้น ประโยชน์ที่ทุกท่านจะได้อีกนั่นก็คือรู้จักการออมและการลงทุนด้วยเครื่องมือที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น ยิ่งถ้าสำหรับบางท่านมีเป้าหมายเงินออมหลังเกษียณด้วยนั้น ยิ่งควรที่จะต้องวางแผนภาษีให้ดี เพราะเงินส่วนนี้ก็เป็นเงินอีกส่วนหนึ่งที่จะเป็นเงินอีกก้อนตอนที่ท่านเกษียณ เงินออมหลังเกษียณ ถือว่ามีความสำคัญมากมากนะคะ

       ลองคิดดูตอนคุณเกษียณไปแล้ว ใครจะมาดูแลเรา? จะหวังพึ่งลูกหลานหรือ? ซึ่งหลายท่านก็แต่งงานช้า...และกว่าจะมีลูก...หนุ่มสาวสมัยลูกเราก็น่าจะมีลูกช้าขึ้นไปอีก แถมรายจ่ายในการเลี้ยงดูเด็กหนึ่งคนเดี๋ยวนี้ก็ค่อนข้างสูงมากค่ะ และนี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้มีลูกคนเดียวหรือสองคน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วจะยังหวังพึ่งลูกหลานอีกมั๊ยคะ?

 

       เพราะฉะนั้น พี่ Tidawan อยากให้ทุกท่านเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนภาษีเป็นเงินออมโดยการลงทุนใน LTF & RMF ให้มากมาก รวย รวย รวย ต้อนรับปีจอ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ ^^

 

TIDAWAN DD

IC